แนะนำวิธีการซ่อมแซมประตูหน้าต่างไม้ เมื่อเกิดการผุพัง และรวมถึงการเปลี่ยนบานประตูหน้าต่างเมื่อไม้ผุมากเกินแก้
ปัจจุบันวัสดุที่นำมาใช้ทำประตูหรือหน้าต่างนั้นมีหลากหลายประเภท แต่วัสดุที่นิยมมากที่สุดและใช้กันมายาวนานได้แก่ "ไม้" ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นวัสดุที่ผุพังง่ายกว่าวัสดุชนิดอื่นก็ตาม บ้านที่ใช้ประตูหน้าต่างไม้ มักต้องระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ ด้วยความที่ไม้เป็นอาหารหลักของปลวก และยังเกิดการยืดหดตัวหรือผุพังได้ง่ายเมื่อโดนแดด โดนฝน และความชื้น เมื่อประตูหน้าต่างเกิดทรุดโทรมนอกจากจะไม่สวยแล้ว ยังอาจเกิดรอยรั่วตามขอบทำให้น้ำรั่วซึม และมดแมลงเข้ามาภายในบ้านได้ ซึ่งการซ่อมแซมทั่วๆไป เช่น ทาสีทับ ยาแนวอุดรอยรั่ว เคลือบน้ำยารักษาเนื้อไม้ นั้นไม่ยุ่งยาก แต่หากเกิดผุพังเสียหายมาก จนยากต่อการซ่อมแซม ก็ต้องเปลี่ยนประตูหน้าต่างใหม่เลย
1.ดูจุดบกพร่อง หาจุดที่ต้องการซ่อมแซม หรือถอดบานหน้าต่างออกมาทั้งบานเพื่อตรวจดู หาหร้าต่างที่มีรอยผุพัง และแตกร้าว วิธีในการถอดหน้าต่างคือ เปิดบานหน้าต่างออกมาให้อยู่ในลักษณะทำมุมกับผนัง 90 องศา จากนั้นขันนอตออกมา แล้วจับบานหน้าต่างยกขึ้น เพื่อถอดข้อต่อของหน้าต่างออกจากกัน ประตูก็ทำเช่นเดียวกัน
2.ทำความสะอาด เพื่อขจัดครอบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกก่อน โดยการนำผ้าชุดน้ำบิดหมาดๆมาเช็ด เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้แห้งแล้วตามด้วยการใช้กระดาษทรายหยาบ หรือแปรงขัดลวดทองเหลือง มาขัดบริเวณที่มีรอยแตกร้าว หรือบนตำแหน่งที่มีความผิดปกติ รวมไปถึงจุดแหว่งบนหน้าต่าง ให้พื้นที่ตรงนั้นราบเรียบ เสมอกัน
หน้าต่างไม้ที่เสื่อมภาพ นอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังอาจเกิดรูรั่วทำให้เปลืองแอร์ให้น้ำไหลเข้าบ้านได้
3.นำไม้มาวัดตัดแต่งให้พอเหมาะกับช่องว่างที่ขาดหายไป หรือเติมวัสดุอื่นลงในไม้ที่ผุผังไม่มาก ทั้งนี้ก่อนจะเสริมลงไปควรตรวจเช็กให้แน่เสียก่อนว่า ไม้ชิ้นนั้นไม่มีความชื้น หรือเชื้อราปะปนอยู่
4.หลังจากตัดแต่งจนได้ชิ้นไม้ที่พอดีแล้ว ใช้กาวติดไม่ทาลงไปบนชิ้นไม้ และส่วนที่ชำรุดบนหน้าต่างด้วย จากนั้นนำชิ้นไม้ประกบลงไปในช่องว่าง และกดเอาไว้จนกว่ากาวจะแห้งสนิทจริง ๆ ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย ดังนั้นเปลี่ยนมาใช้ปากกาจับชิ้นงานช่วยยึดไม้ทั้งสองอันเข้าด้วยกันจะทำให้สะดวกกว่า
5. เมื่อกาวแห้งสนิทแล้วใช้กระดาษทรายขัดพื้นผิวอีกหนึ่งรอบให้ราบเรียบเสมอเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
6. เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้วนำสีมาทับลงไป จากนั้นเคลือบเงาด้วยน้ำยาเคลือบผิวไม้ รอให้แห้งสีและน้ำยาแห้งสนิท ก่อนที่จะนำหน้าต่างกลับไปติดตั้งใหม่อีกครั้ง ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วจ้า
วงกบและบานกรอบประตูไม้ดูสวยงามแบบอบอุ่น แต่มีความคงทนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น จึงควรเคลือบน้ำยากันปลวกและน้ำยารักษาเนื้อไม้เพื่อยืดอายุการใช้งาน
แต่หากไม้ผุพังมากจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ จนต้องเปลี่ยนหน้าต่าง ประตูไม้
ประตูหน้าต่างบ้านสำหรับบ้านที่ก่ออิฐฉาบปูน การถอดประตูหรือหน้าต่างที่เสียหายออกไปแล้วนำบานใหม่มาติดตั้งอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก แต่ถ้าต้อง “เปลี่ยนวงกบ” ด้วยจะยุ่งยากและใช้เวลานานกว่ามาก เพราะโดยธรรมชาติของวัสดุปูนจะยึดกับวงกบไม้อย่างแน่นหนา การรื้อถอนวงกบจึงทำได้ยาก และมักได้ความเสียหายของผนังปูนบริเวณรอบวงกบมาเป็นของแถมด้วย ดังนั้น หลังจากที่รื้อวงกบไม้เดิมออกแล้ว จะต้องมีขั้นตอนซ่อมแซมผนังปูนให้เรียบร้อย รวมถึงใช้เวลารอให้ปูนแห้งอย่างน้อย 1 วันก่อน จากนั้นจึงค่อยติดตั้งวงกบตามด้วยบานหน้าต่างหรือประตูใหม่ได้
จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้ที่รวมถึงวงกบด้วยนั้น ต้องอาศัยเวลาและขั้นตอนการดำเนินงานพอสมควร เจ้าของบ้านมักต้องสละกิจธุระซึ่งอาจไม่ใช่แค่ 2-3 วัน เพื่อมาเฝ้าการทำงานของช่าง ทั้งยังต้องเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ทำความสะอาดฝุ่นผงและเศษวัสดุหลังติดตั้งด้วย ดังนั้น ไหนๆ จะต้องเสียเวลาและเผชิญกับความยุ่งยากแล้ว ก่อนตัดสินในเปลี่ยนประตูหน้าต่าง ควรคำนึงเรื่องความคุ้มค่าและความต้องการให้ครบถ้วน เช่น ถือโอกาสเปลี่ยนประตูหน้าต่างบานอื่นๆ ที่เริ่มเสื่อมสภาพไปด้วยพร้อมกันทีเดียว อยากเปลี่ยนบานเปิดให้เป็นบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ หรือสนใจหันมาใช้วัสดุอื่นที่ทนทานกว่าไม้ ไม่ยืดหดตัว ปลวกไม่กิน และทนไฟ อย่างอะลูมิเนียมหรือไวนีลเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา กรณีเน้นความสงบเงียบในบ้าน และป้องกันอากาศหรือความร้อนรั่วซึม ประตูหน้าต่างไวนีลจะช่วยได้มากเพราะมีรอยต่อที่มิดชิด
วงกบและบานกรอบประตูวัสดุไวนีล |
แต่ความจริงแล้วเมื่อเกิดปัญหากรอบหรือบ้านหน้าต่างเกิดการผุกร่อน หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งผิดปกติ คนส่วนมากมักจะคิดว่าต้องเปลี่ยนวัสดุใหม่ทั้งหมด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่หรือเปลี่ยนเสมอไป แค่เพียงหมั่นดูแลบำรุงรักษาให้ไม้อยู่สภาพพร้อมใช้งานเสมอ และทุกครั้งที่พบตำหนิ หรือจุดบกพร่องรีบแก้ไขก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้านบน
สุดท้ายหากคิดจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้จริงๆ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเลย คือ “ความชำนาญของทีมช่าง” เจ้าของบ้านควรเลือกทีมช่างที่มีความประณีตทั้งการติดตั้งและรื้อถอน เพื่อให้ได้งานที่สวยงามเรียบร้อย เกิดความเสียหายของผนังปูนน้อยที่สุดภายในเวลาระยะเวลาที่ไม่นานจนเกินไป และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงมีความชำนาญในการวัด ตัด ประกอบตามขนาดที่แม่นยำ เพราะหากผิดพลาด ทีมช่างจะต้องขนเอาบานประตูหน้าต่างกลับไปแก้ไขใหม่ อาจทำให้ต้องเสียเวลามากขึ้นเกือบเท่าตัว
CR.
http://www.scgbuildingmaterials.com/
http://www.windsorfastrenew.com
http://home.kapook.com/